ไม้เต็ง

ไม้ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจอันดับต้นของประเทศไทย คงจะไม่พูดถึง ไม้เต็งไปไม่ได้ เพราะไม้เต็งถือเป็นไม้เนื้อแข็งที่หาได้ไม่ยากมากนัก ซึ่งไม้เต็งนี้มีค่าความถ่วงจำเพาะที่ 1.07 ค่าความถ่วงจำเพาะที่กล่าวถึงนี้คือ ค่าอัตราส่วนระหว่างความหนาแน่นของไม้และน้ำ เมื่อทั้งสองอย่างมีอุณหภูมิที่เท่ากัน ชนิดของไม้เต็งตามธรรมชาติมีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ เช่น ไม้เต็งลาว ไม้เต็งแดง ไม้เต็งอินโด ไม้เต็งซา ไม้เต็งดง ไม้เต็งมาเลย์ เป็นต้น สำหรับไม้เต็งลาวจะมีลักษณะเนื้อไม้ที่มีความหนาแน่นมากกว่า สีของไม้เต็งลาวจะเป็นสีเหลือง เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่ไม่ร้อนชื้นจนเกินไป สำหรับไม้เต็งมาเลย์จะมีลักษณะใกล้เคียงกับไม้เต็งลาว แต่สามารถเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่มีความชื้นได้ดีกว่าไม้เต็งลาว สำหรับไม้เต็งอินโดจะมีลักษณะเนื้อไม้ที่ทนต่อความชื้นได้มากกว่าไม้เต็งชนิดอื่น แต่ความหนาแน่นของเนื้อไม้น้อยกว่า เพราะไม้เต็งอินโดสามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศเขตป่าร้อนชื้น ข้อสังเกตที่เป็นจุดเด่นของไม้เต็ง คือ ไม้เต็งบางส่วนของลำต้นจะมีรูคล้ายกับร่องรอยของมอดเข้าไปกัดกิน แต่ความจริงแล้วเป็นร่องรอยที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เพราะไม้เต็งต้องการให้เนื้อไม้ได้รับการระบายถ่ายเทอากาศและความชื้นออกไปบ้าง บางส่วนจะพบว่าไม้เต็งมีลำต้นอยู่ใต้น้ำจึงต้องอากาศการระบายอากาศออกทางรูดังกล่าวนั่นเอง ทั้งนี้คุณสามารถเลือกซื้อไม้เต็งแต่ละชนิดได้ที่แหล่งซื้อขายไม้เต็งทั่วไป ได้แก่ ร้านขายไม้เต็ง บริษัทจำหน่ายไม้เต็งร้านขายไม้เต็งลาว เป็นต้น

ลักษณะของไม้เต็ง

ไม้เต็งเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบันจากลักษณะการใช้งานของไม้เต็ง เนื่องจากไม้เต็งเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีลำต้นขนาดตั้งแต่ปานกลางไปจนถึงใหญ่มาก อีกทั้งไม้เต็งยังเป็นไม้พันธุ์ที่มีอายุยืนยาว มีคุณสมบัติที่ดี และราคาไม้เต็งก็ไม่แพงมากนัก รวมไปถึงสามารถเลือกซื้อได้ง่ายจากแหล่งซื้อขายไม้เต็งทั่วไป ได้แก่ ร้านขายไม้เต็ง บริษัทจำหน่ายไม้เต็ง ร้านขายไม้เต็งลาว เป็นต้น ไม้เต็งถูกนำมาใช้ในงานอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ งานตกแต่งภายในและภายนอก การทำเสาเรือนไม้เต็ง พื้นไม้เต็ง บันไดไม้เต็ง ฝ้าเพดานไม้เต็ง บัวไม้เต็ง คานไม้เต็ง และนำมาแปรรูปเป็นไม้เต็งแปรรูปเพื่อการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น แต่ไม่ค่อยนิยมนำมาทำเป็นวงกบ บานประตู หรือหน้าต่าง เพราะไม้เต็งมีความถ่วงจำเพาะ หรือค่าอัตราส่วนระหว่างความหนาแน่นของไม้และน้ำ เมื่อทั้งสองอย่างมีอุณหภูมิที่เท่ากันนั้นสูง ไม้เต็งสามารถพบได้มากในประเทศไทย ประเทศลาว ประเทศพม่า ประเทศมาเลเซีย ประเทศอินโดนีเซีย เป็นต้น ขนาดของไม้เต็งที่นิยมนำออกมาจำหน่าย คือ ขนาดความหนา 1×2 นิ้ว กว้าง 12 นิ้ว ยาว 1-6.5 เมตร ขนาดความหนา 1.5×3 นิ้ว กว้าง 12 นิ้ว ยาว 1-6.5 เมตร และขนาดความหนา 2×3 นิ้ว กว้าง 12 นิ้ว ยาว 1-6.5 เมตร เป็นต้น

 

คุณสมบัติไม้เต็ง

มีสีน้ำตาลแก่แกมแดง เสี้ยนสับสน เนื้อหยาบ เหนียวแข็งแรง และทนทานมาก เหมาะสำหรับใช้ทำหมอนรางรถไฟ เครื่องมือกสิกรรมโครงสร้างอาคาร เช่น ตง คาน วงกบ ประตูหน้าต่าง โครงหลังคา